วัดพระธรรมกาย ตอนที่ 5 วิธีเลี้ยงลูกให้ได้ดี

วัดพระธรรมกาย ตอนที่ 5 : วิธีเลี้ยงลูกให้ได้ดี

พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นคนดี เรียนเก่ง ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จะไปพูดสอนบ่อยๆ บางทีลูกก็จะรำคาญ หาว่าพ่อแม่จู้จี้ขี้บ่น

เคล็ดลับในการเลี้ยงลูกให้ดีนั้น การสอนด้วยคำพูด เป็นเพียงการนำร่องเท่านั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่การฝึกนิสัยของลูก ถ้าลูกนิสัยดี การเรียน ความประพฤติ การทำงาน การครองชีวิต จะดีหมด

นิสัย คือ สิ่งที่เราคิด พูด ทำซ้ำๆ จนเกิดความคุ้นชิน ทำให้มีแนวโน้มอยากจะทำอย่างนั้นอีก เรียกว่า ติดเป็นนิสัย 

เอกลักษณ์คำสอนวัดพระธรรมกายที่สำคัญประการหนึ่ง 


คือ เน้นการนำไปปฏิบัติให้ได้ผลจริง ทางวัดมีแนวคิดว่า การเรียนรู้ธรรมะต้องคู่กับการลงมือปฏิบัติ จนคุ้นชินติดเป็นนิสัย จึงจะเกิดผลดีได้จริง ยกตัวอย่างเช่น

การฝึกอบรมสามเณร ทางวัดจะสอนตั้งแต่วิธีการสรงน้ำ การซักตากและพับเก็บจีวร การนุ่งห่มจีวรให้เรียบร้อย การตัดเล็บ การกวาดถูกุฏิ การจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ การกางกลดและเก็บกลด การพับผ้าห่ม การใช้ข้าวของอย่างทะนุถนอม การแสดงความเคารพและการพูดจากับพระภิกษุ การให้เกียรติสามเณรรุ่นพี่ การร่วมกิจกรรมต่างๆอย่างตรงเวลา 
ตั้งแต่ตื่นนอน สวดมนต์ นั่งสมาธิ บิณฑบาต ฉันภัตตาหาร เรียนหนังสือ รับบุญต่างๆ มีชีวิตที่เป็นระบบระเบียบ

เมื่อมาอยู่วัดเพียงไม่นาน สามเณรจะรู้สึกได้ด้วยตนเองว่า ตนนั้นดีขึ้นมากจนตนเองยังเคารพตนเองได้ อุดมการณ์ในการบวชจึงค่อยๆเพิ่มพูนมากขึ้น ลำพังการมานั่งเทศน์สอนสามเณรว่าการบวชดีอย่างไรได้ผลน้อย ต้องฝึกปฏิบัติในสิ่งดีๆจนติดเป็นนิสัยการอบรมจึงจะได้ผล

ทำให้สามเณรวัดพระธรรมกาย มีความรักในผ้าเหลืองรักวัด สามเณรที่สอบบาลีได้ประโยคสูงๆ จนได้เปรียญธรรม 9 ประโยค เป็นนาคหลวงอุปสมบทในพระบรมราชูปถัมภ์ที่วัดพระแก้ว ก็ไม่มีอภิสิทธิ์แต่อย่างใด คงจำวัดในกลด อยู่ในกุฏิมุงด้วยจากเหมือนสามเณรรูปอื่นๆ
บางแห่งมีการเชิญชวนสามเณรที่ได้เปรียญประโยคสูงจากวัดอื่นให้มาอยู่วัดตน มีกุฏิส่วนตัวให้อยู่ มีปัจจัยถวายประจำเดือน เพราะหวังผลที่สามเณรสอบบาลีได้ จะได้เป็นชื่อเสียงผลงานของวัด แต่ที่วัดพระธรรมกาย สามเณรเปรียญทุกรูป ทางวัดเป็นผู้ฝึกสอนเองตั้งแต่เริ่มบวช และแม้อยู่อย่างเรียบง่าย ไม่มีปัจจัยถวาย สามเณรเปรียญสูงๆ ก็ไม่มีใครย้ายหนีไปไหน เพราะรักวัด รักพระพุทธศาสนา
แนวทางการฝึกนิสัยนี้ ทางวัดใช้ในการอบรมญาติโยมด้วยเช่นกัน และเป็นแนวทางที่ทุกคนสามารถใช้ในการฝึกอบรมลูกของตนให้เป็นคนดีได้

>> โดยสรุป นิสัยที่ทุกคนควรฝึกให้มีขึ้นในตน ถือเป็นหลักความดีสากลของคนทุกชาติ ทุกศาสนา คือ


_1.
สะอาดทั้งความสะอาดของร่างกาย ข้าวของเครื่องใช้ บ้านช่องห้องหับ

_2.
เป็นระเบียบข้าวของทั้งหลายจัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูสบายตาพาสบายใจ

_3.
สุภาพ ทั้งการปฏิบัติต่อบุคคลอื่น และสุภาพต่อการใช้ข้าวของ ไม่กระแทก ปึงปัง

_4.
ตรงเวลามีวินัยเรื่องเวลา แบ่งเวลาเป็น ควบคุมการใช้เวลาได้ ไม่ตามใจตนเอง

_5.
รักการนั่งสมาธิรักษาใจให้สงบสะอาดบริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เสมอ
โดยสถานที่ฝึกนิสัยเหล่านี้คือ

1.
ห้องนอน
2.
ห้องน้ำ
3.
ห้องแต่งตัว
4.
ห้องครัว + ห้องทานอาหาร
5.
ห้องทำงาน หรือห้องเรียน ห้องพักผ่อน

เรียกว่า 5 ห้องชีวิต เพราะชีวิตเราในแต่ละวันจะวนเวียนอยู่ในห้องทั้ง 5 นี้ เมื่อเราทำต่อสิ่งต่างๆใน 5 ห้องนี้อย่างสะอาดเป็นระเบียบ สุภาพ ตรงเวลา เช่น ตื่นนอนก็พับผ้าห่ม เก็บที่นอนเรียบร้อย ดูแลห้องนอนให้สะอาด นิสัยนี้ก็จะติดตัวเราไปตลอด

นิสัยดีจะเป็นพื้นฐานความสุขความสำเร็จของชีวิต สำคัญกว่าความรู้เสียอีก


หลักการฝึกคนนี้ได้มาจากแนวทางของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงให้ภิกษุผู้บวชใหม่จะต้องอยู่ถือนิสัยกับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ถึง 5 ปี
เมื่อมีนิสัยดีแล้ว จะสอนธรรมะอื่นๆประการใด ใจเขาก็พร้อมน้อมรับ ธรรมะจะเป็นประโยชน์ต่อเขาได้เต็มที่

หลักการฝึกนิสัยนี้เอง เป็นเคล็ดลับแห่งความสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของวัดพระธรรมกาย 


เพราะเมื่อญาติโยมมาวัดแล้วได้ประโยชน์ ชีวิตเขาดีขึ้น เขาก็รักวัดศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้น และไปชวนคนอื่นๆมาวัดเพิ่มขึ้น

ยิ่งพ่อแม่พาลูกเข้าวัดด้วยกันทุกวันอาทิตย์ ครอบครัวก็อบอุ่น ลูกก็มี EQ ดี นิสัยดี มีสมาธิทำให้เรียนดี พ่อแม่ก็ชื่นใจ การประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกจะทำให้เป็นครอบครัวชาวพุทธที่สมบูรณ์

สิ่งที่วัดพระธรรมกายทำเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า 

หากเราตั้งใจสอนญาติโยมตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้แล้ว จะได้ผล ญาติโยมได้ประโยชน์เต็มที่ คนจะมาวัดมาก วัดจะเจริญ โดยไม่ต้องไปพึ่งพามหรสพ การดูหมอ ใบ้หวย มาดึงคนเข้าวัดเลย

>>หมายเหตุ ข้อมูลจากพระธรรมเทศนาของพระราชภาวนาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

ที่มา facebook เพจ พุทธสามัคคี

Previous
Next Post »