วัดพระธรรมกาย ตอนที่ 3 สาธุชน

วัดพระธรรมกาย ตอนที่ 3 : สาธุชน

วัดพระธรรมกายมีสาธุชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมจำนวนมาก ในวันสำคัญมีผู้มาร่วมงานจำนวนหลายแสนคน หากวัดต่างๆในประเทศไทยมีสาธุชนมาปฏิบัติธรรมจนเต็มวัดได้อย่างนี้ ศีลธรรมจะกลับคืนสู่สังคมไทย พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง

เอกลักษณ์ของสาธุชนวัดพระธรรมกาย

1. มีคนทุกระดับชั้นเข้าวัด ประสานกลมกลืนกันระหว่างปัญญาชนคนรุ่นใหม่กับคนที่ความรู้ไม่สูง คนกรุงกับคนชนบท ผู้สูงวัยกับเยาวชนคนหนุ่มสาว คนรวยกับคนจน ปฏิบัติธรรมร่วมกันอย่างผสมกลมกลืน

2. ทางวัดเน้นความสงบ ความสะอาดตา
ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ตกแต่งเครื่องประดับมาอวดกัน จึงให้ทุกคนใส่ชุดขาวมาวัด ไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เล่นการพนัน หรือเสพอบายมุขในวัด ซึ่งสาธุชนก็ให้ความร่วมมือดีมาก

3. สาธุชนเป็นผู้ที่ฝึกตัวดี ทางวัดจะอบรมสาธุชนถึงวัฒนธรรมชาวพุทธ เช่น การกราบ การไหว้ การลุก การนั่ง การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์ กิริยามารยาท การสวดมนต์ทำวัตร การอาราธนาศีลก็ให้ทุกคนเปล่งเสียงชัดเจนโดยพร้อมเพรียงกัน คนใหม่ก็ดูแบบอย่างจากคนเก่าปฏิบัติตามกันไปอย่างงดงาม

4. รักการปฏิบัติธรรม ในทุกงานบุญจะมีการนั่งสมาธิซึ่งไม่ใช่นั่งเพียง 10-20 นาทีพอเป็นพิธี แต่นั่งคราวละนานเป็นชั่วโมง ซึ่งคนหลายๆแสนคนก็นั่งกันอย่างเงียบสงบ น่าอัศจรรย์ใจ

5. มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้น ไม่ได้เข้าวัดเพียงเพื่อทำตามประเพณี แต่มีเป้าหมายฝึกตัวเองเพื่อมุ่งนิพพานไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ในระหว่างที่ยังไม่หมดกิเลสก็ตั้งเป้าหมายให้ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต ซึ่งเป็นชั้นของพระโพธิสัตว์ เพื่อเป็นที่พักระหว่างการเดินทางในวัฏสงสาร ก่อนจะลงมาเกิดสร้างบารมีกันต่อไป

6. ตระหนักในคุณค่าของบุญ ยึดหลัก “บุญนิยม” ไม่ยึด “วัตถุนิยม” ทำความดีทั้งการให้ทาน การรักษาศีล และการทำสมาธิภาวนา โดยมุ่งหวังบุญกุศลการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสเป็นที่ตั้ง ส่วนพระของขวัญ คือ เหรียญพระรูปแบบต่างๆ ที่ทางวัดมอบให้เป็นของขวัญในวาระโอกาสที่ทำบุญนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ระลึกนึกถึงบุญเท่านั้น สาธุชนไม่ได้ยึดติด หลายคนเมื่อทำบุญในหลายวาระมีเหรียญพระของขวัญมากก็นำมาถวายวัด เพราะรู้ว่าคุณค่าที่แท้จริงคือ คุณความดีในตัว บุญกุศลที่ตนได้กระทำ

ทางวัดไม่มีการจำหน่ายวัตถุมงคลทุกรูปแบบ ดังนั้นหากเห็นมีการนำรูปพระเครื่อง หรือแม้กระทั่งสิ่งอื่น เช่น ค้อน พร้อมติดป้ายราคา ก็พึงรู้ว่าเป็นการทำข้อความปลอมเพื่อใส่ร้ายป้ายสีวัดของผู้ไม่หวังดี

7. ความรู้สึกเป็นเจ้าของวัด ทางวัดจะสอนให้ญาติโยมตระหนักว่าวัดเป็นของสาธุชนทุกคนที่ช่วยกันสร้าง ช่วยกันใช้เป็นที่บำเพ็ญบุญ และช่วยกันดูแลรักษา ดังนั้นสาธุชนที่มาวัดนานๆจะรู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของวัด ช่วยกันเป็นอาสาสมัครอำนวยความสะดวกให้สาธุชนใหม่ที่เพิ่งมา และเมื่อมีงานพระศาสนาใดๆ ทุกคนก็จะมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ โดยไม่กลัวความร้อน ความลำบาก ความสกปรก ความเหน็ดเหนื่อยใดๆเลย 

แม้จะล้างห้องน้ำ ปัด กวาด เช็ด ถูอาคารสถานที่ก็ทำด้วยใจเบิกบาน สิ่งนี้ทำให้งานบุญที่มีคนเข้าร่วมหลายแสนคน สามารถดำเนินไปได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

หลักคิดของวัด “คนมาวัดร้อย ให้เป็นเจ้าหน้าที่วัดทั้งร้อย คนมาวัดล้าน ให้เป็นเจ้าหน้าที่วัดทั้งล้าน”

8. เหตุที่ญาติโยมมาวัดมาก เพราะทางวัดสอนธรรมะให้การอบรมอย่างจริงจัง เมื่อนำธรรมะไปปฏิบัติทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้นประสบความสำเร็จในธุรกิจการงาน มีความสุข บางคนใหม่ๆ มาวัดยังจนทำบุญทีละ 10 บาท ต่อมาก็รวยเป็นเศรษฐีทำบุญถวาย 10 ล้านก็มี เมื่อเขามาแล้วได้ประโยชน์จึงไปชวนเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมาด้วย คนจึงมาวัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

>>สรุป ญาติโยมนี่เองเป็นพลังช่วยในการขับเคลื่อนงานของวัดที่สำคัญมาก หากวัดต่างๆ นำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาสั่งสอนอบรมประชาชนอย่างจริงจัง ให้เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้น วัดก็จะเจริญ สังคมก็จะสงบร่มเย็น พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองแน่นอน

>>หมายเหตุ ขอขอบคุณข้อมูลจากแพทย์หญิงกีรติกานต์ ลำดับวงศ์

ที่มา facebook เพจ พุทธสามัคคี
Previous
Next Post »