เผยความไม่ชอบมาพากล
คดีวัดพระธรรมกาย ตอนที่ 2
การใช้กำลังกับคนที่ไม่มีทางสู้ ย่อมไม่ได้เกิดจากความกล้าหาญ
ผู้กล้าหาญย่อมไม่ยินดีในการรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า
มีแต่คนขี้ขลาดเท่านั้นที่จะทำ
หากคนขี้ขลาดได้เป็นใหญ่
ก็มักจะใช้อำนาจ ในการกำจัดคนที่ตนเห็นว่าเป็นศัตรู
และพยายามกลั่นแกล้งคนที่ทำให้ตนเสียประโยชน์
.....................................
ดิฉันเขียนเรื่องนี้มีเหตุมาจากกรณีที่วัดพระธรรมกายถูกระแวง
และกลั่นแกล้งด้วยการใส่ร้ายต่างๆ นานา จนคนเข้าใจผิดกันไปครึ่งค่อนเมือง แม้แต่ภาครัฐก็ยังถูกยุยงให้เข้าใจผิดไปเลยค่ะ
วันนี้ดิฉันจึงขอโอกาสในการอธิบายความจริงที่ตนเองสัมผัสมาถึง
31 ปี ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบบ้าง ที่ผ่านมา
ดิฉันเห็นว่าเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลไม่อยากนำมาเขียนในเพจนี้
แต่วันนี้คิดว่าจำเป็นต้องเล่าให้ฟังแล้วละค่ะ
เพราะเรื่องมันไปกันใหญ่ ถึงขนาดจะมีกองกำลัง 1,000 นาย และรถถังหุ้มเกราะมาบุกจับตัว
หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดนี้ไปด้วย
ถ้าไม่เล่าวันนี้
ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้เล่าอีกไหม
เพราะได้ข่าวว่าจะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อใช้ความรุนแรงกับเหล่าศิษย์ที่เข้ามารวมตัวกันอย่างสงบภายในวัดด้วย
ซึ่งดิฉันก็อาจตกเป็นเหยื่อรายหนึ่ง
จึงขอเขียนเล่าตอนยังมีชีวิตอยู่ดีกว่านะคะ
เพราะขืนเล่าตอนตายไปแล้ว ท่านผู้อ่านคงวิ่งหนีกันป่าราบแน่
เตือนไว้ก่อนนะคะว่าเรื่องมันยาว
แต่ก็ช่วยอ่านให้จบเถอะค่ะ เพราะไม่ทราบว่าโพสต์นี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ได้เขียนให้อ่านหรือเปล่า
==================
เรื่องที่เขียนนี้
เป็นตอนต่อจากโพสต์ที่แล้ว วันที่ 26/5/59 เรื่องความระแวง
กรุณาอ่านให้ครบนะคะ คลิกอ่านตอนแรกได้ที่
หรือที่
==================
= = = มีรถถังหุ้มเกราะด้วยนะ
พร้อมทั้งขู่ว่า
ถ้าไม่ไปรายงานตัวตามหมายจับในวันที่ 26 พ.ค. 59 จะนำกำลังเข้าไปจับกุมถึงที่วัด เพราะจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย
ตอนเช้าของวันที่ 19 พ.ค. มีสื่อมวลชนลงข่าวว่า DSI ได้เตรียมกำลัง 1,000 นาย พร้อมรถถังหุ้มเกราะเอาไว้
เพื่อผ่าบรรดาลูกศิษย์เข้าไปจับหลวงพ่อธัมมชโยให้จงได้
ตอนกลางวันก็มีโพลออกมาว่า
ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังและความรุนแรงเพื่อจับหลวงพ่อธัมมชโย
ตอนเย็น DSI ออกข่าวปฏิเสธว่าไม่ได้จะนำกำลังและรถถังไปใช้ตามข่าว
@ ! @ แต่ตอนนี้ มีสัญญาณที่ไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้น
เพราะมีจดหมายราชการหลุดมาให้เห็นว่ามีการเตรียมกำลังจริง
และมีการสร้างข่าวเท็จว่าลูกศิษย์วัดพระธรรมกายคลั่ง ไร้สติ ทุบรถยนต์
ทำลายข้าวของ ซึ่งข่าวนี้ไม่จริง แต่ข่าวนี้เหมือนเป็นตัวช่วยปูทางให้เกิดความชอบธรรมในการใช้กำลังและความรุนแรงเพื่อปราบเหล่าศิษย์
@ ! @
ในความเป็นจริงแล้ว
ลูกศิษย์หลวงพ่อธัมมชโยมารวมตัวกันที่วัดพระธรรมกายอย่างสงบ ทุกคนรักษาศีล
และมาทำสมาธิร่วมกัน เพื่อถวายกำลังใจหลวงพ่อผู้เป็นที่เคารพรัก
+ + + + พวกเรามีแต่มือเปล่า ไม่มีอาวุธ ทางวัดก็กำชับให้ทุกคนไปอย่างสงบ
ห้ามพกอาวุธ แม้แต่มีด กรรไกร และเข็ม ยังไม่ให้นำติดตัวไปด้วย
เรื่องปืนและระเบิดนี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแน่นอนค่ะ
ที่สำคัญ
เรายึดหลักคำสอนของหลวงพ่อธัมมชโย ที่ให้แก้ปัญหาด้วยสติปัญญา ไม่ใช้อารมณ์
ไม่ก่อบาปใหม่ด้วยการทำผิดศีล
-------------------------------
= = = ป่วยแค่ไหน ก็ต้องไป DSI
เมื่อมีหมายจับออกมาแล้ว
ทางวัดพระธรรมกายก็พยายามเจรจาขอให้เจ้าหน้าที่ DSI นำเอกสารมาให้หลวงพ่อธัมมชโยเซ็นรับทราบที่วัด
เพราะหลวงพ่ออาพาธหนัก เดินทางไปไม่ได้จริงๆ
โดยทางวัดบอกว่าไม่ต้องรอถึงวันที่
26 พ.ค. หรอก เพราะพร้อมตั้งแต่ 25 แล้ว
แต่ทาง DSI ก็ปฏิเสธอีก โดยยืนยันให้หลวงพ่อธัมมชโยไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ DSI เท่านั้น เจ้าหน้าที่ DSI จะไม่ไปที่วัดพระธรรมกาย
เพราะเชื่อว่าไม่ได้ป่วยมากขนาดที่เดินทางไม่ไหว
@ ! @ ทั้งที่ DSI ไม่เคยส่งแพทย์มาตรวจเลย
แล้วท่านทราบได้อย่างไรว่าหลวงพ่อป่วยมากหรือน้อย ท่านเอาอะไรตัดสิน ?
-------------------------------
= ? = ? = แปลกที่ 10 : ไม่ตอบ หรือ ตอบไม่ได้
ท่านรองอธิบดี DSI ไปให้สัมภาษณ์รายการถามตรงๆ กับ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ พอพิธีกรถามว่าทำไม
DSI ถึงไม่ส่งแพทย์ไปตรวจหลวงพ่อธัมมชโย
ให้ทราบแน่ชัดว่าท่านป่วยจริงหรือไม่
@ ! @ ท่านรองอธิบดีท่านบอกว่า ขอไม่ตอบ เพราะมันเลยขั้นตอนนั้นมาแล้ว
เดาว่า ท่านอาจจะอยากบอกว่า
ตอบไม่ได้ ไม่มีเหตุผล แต่มันคงดูไม่ดี ท่านเลยเลี่ยงใช้คำว่าขอไม่ตอบ แต่ไม่ว่าจะเลี่ยงใช้คำไหน
มันก็แสดงว่าท่านไม่มีเหตุผลอยู่ดีนั่นแหละ
-------------------------------
= = = ขอตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่ DSI ไม่ไปพบหลวงพ่อธัมมชโยที่วัดพระธรรมกาย
ดังนี้
? ! ? ! คำถามที่ 1. DSI นำหมายเรียกไปได้ ทำไมไม่ไป ???
ในเมื่อการไปแจ้งข้อกล่าวหานอกสถานที่
เป็นเรื่องที่ DSI ทำได้ และเคยทำมาแล้ว
ครั้งที่นำหมายเรียกไปให้คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ที่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ค. 53
ทำไมครั้งนี้
จึงนำหมายเรียกไปให้หลวงพ่อธัมมชโยที่วัดพระธรรมกายไม่ได้
@ ! @ DSI หวังผลอะไร ในเมื่อทราบอยู่แล้วว่า สุขภาพของหลวงพ่อธัมมชโยไม่ดี
ท่านไปไม่ได้ แล้วลูกศิษย์ของท่านก็คงไม่ปล่อยให้หลวงพ่อไป
เพราะเท่ากับส่งครูบาอาจารย์ของตนเองไปเสี่ยงตายระหว่างทาง
-------------------------------
? ! ? ! คำถามที่ 2. บางคนโดนหมายจับ กลับไม่ยอมจับ
แม้มีหมายจับออกมาแล้ว DSI ก็ไม่จำเป็นต้องจับผู้ต้องหาภายใน 7 วัน
ตามที่แจ้งว่าจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย
อย่างเช่น เมื่อวันที่ 6 ก.พ.57 ศาลอาญาก็อนุมัติหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระ
ข้อหาขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
@ ! @ แต่ก็ยังไม่เห็นหลวงปู่ถูกจับสักที ไม่มีการนำกำลังเข้าไปปิดล้อม
และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลวงปู่พุทธอิสระก็เดินทางไป DSI เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินดคีกับหลวงพ่อธัมมชโย
ซึ่ง DSI ก็ไม่เห็นจับกุมหลวงปู่พุทธอิสระเลย
@ ! @ แล้วทีกับหลวงพ่อธัมมชโย ทำไม DSI จึงผ่อนปรนไม่ได้
ทำไมถึงยืนกรานว่าต้องเข้ามาจับกุมตามกฎหมาย
ตกลงมาตรฐานมันอยู่ตรงไหน ? ? ?
-------------------------------
? ! ? ! คำถามที่ 3. ถ้าไปจับได้
แล้วทำไมไปให้เซ็นไม่ได้
การที่หลวงพ่อธัมมชโยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัย
ว่าอาจจะมีส่วนรู้เห็นในการฟอกเงิน
เป็นคดีร้ายแรงมากขนาดที่จะต้องเข้ามาบุกจับทันทีเลยเชียวหรือคะ
เงินสหกรณ์ก็ได้ไปแล้ว
ยังมีใครเดือดร้อนขนาดรอไม่ได้อีกเหรอคะ
@ ! @ แล้วถ้า DSI นำทีมมาจับหลวงพ่อธัมมชโยถึงวัดพระธรรมกายได้
ทำไมท่านจึงนำทีมมาให้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาไม่ได้ล่ะ
อย่างหลังมันน่าจะง่ายกว่านะ
ไม่เสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงด้วย
สำหรับเรื่องความรุนแรงนั้น
กลุ่มลูกศิษย์มั่นใจว่าไม่ใช้ความรุนแรงเข้าแก้ไขแน่นอน
แต่ก็เป็นห่วงว่าจะมีมือที่ 3 มาสร้างสถานการณ์
ทำให้กำลังพลของ DSI ใช้ความรุนแรงกับคณะศิษย์
-------------------------------
= = = สรุปว่า
ทาง DSI เลือกปฏิบัติโดยทำเป็นไม่รับรู้ถึงสุขภาพของท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
อีกทั้งไม่ได้ใช้ความพยายามใดๆ ที่จะมาตรวจสอบอาการป่วยของหลวงพ่อธัมมชโย
ทางดีเอสไอได้แต่พยายามที่จะเรียกร้องให้หลวงพ่อธัมมชโยไปพบที่สำนักงาน
DSI ทั้งที่ทราบดีว่า การเดินทางมีความเสี่ยงต่อชีวิตท่าน
-------------------------------
? ! ? ! คำถามสุดท้าย
ขอตั้งคำถามต่อทาง DSI ว่าทำไมจึงพยายามให้ข่าวสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่วัดพระธรรมกายและสถาบันพุทธศาสนาของการคณะสงฆ์ในประเทศไทย
ทั้งที่ DSI เป็นหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ให้ความยุติธรรมต่อประชาชน
-------------------------------
= = = หลวงพ่อธัมมชโยเป็นเหยื่อ
ในกรณีนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า
หลวงพ่อธัมมชโยตกเป็นเหยื่อของการขจัดพุทธศาสนาออกจากแผ่นดินไทย
การกระทำของภาครัฐในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่กับวัดพระธรรมกายวัดเดียวเท่านั้นแต่เกี่ยวข้องกับพุทธบริษัท
4 ทั่วทั้งแผ่นดินไทย
+ + + + + การที่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐ พูดจาดูถูก
และปฏิบัติอย่างไม่ให้เกียรติ ไม่ให้ความเคารพต่อพระภิกษุสงฆ์
ดังที่เห็นจากกรณีของพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ซึ่งเป็นพระราชาคณะ
ทำให้เกิดประเพณีใหม่ ที่ทำให้ผู้คนไม่มีความเคารพพระ
คิดว่าสามารถด่าว่าพระโดยไม่รู้สึกผิด ไม่บาป
ถือเป็นวัฒนธรรมอันอัปยศแห่งยุคก็ว่าได้
* * * * สิ่งที่วัดพระธรรมกายกำลังเผชิญอยู่ถือเป็นเรื่องเล็ก
แต่ความมั่นคงของพระพุทธศาสนาต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่
เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ คือ ศรัทธาของชาวพุทธอ่อนแอลงมาก
ผู้คนจำนวนมากรู้สึกว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนามีแต่เรื่องเสื่อมเสีย
จึงไม่อยากเข้าวัด ไม่อยากศึกษาธรรมะ
-------------------------------
= = = ฝากให้คิดว่า สังคมไทยจะได้อะไรจากกรณีนี้
จากกรณีที่พระเทพญาณมหามุนี
(หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ถูกกล่าวหาว่ารับของโจรและฟอกเงิน
ทำให้เห็นอนาคตเลยว่า วัดในพระพุทธศาสนาจะอยู่ยากไปทุกวัน เพราะรัฐก็ไม่ให้งบ
พอจะไปบอกบุญให้ญาติโยมมาบริจาคสร้างวัด ก็อาจถูกจับข้อหารับของโจรและฟอกเงินได้
**** ถ้าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับวัดทั่วประเทศ
ก็ไม่ทราบว่าพระพุทธศาสนาจะอยู่ในประเทศไทยได้อย่างไร ???
ดังนั้น การปล่อยให้หน่วยงานของรัฐ
ฟ้องหลวงพ่อธัมมชโยและวัดพระธรรมกายเรื่องรับของโจรและฟอกเงินอย่างไม่มีมูลความจริงนั้น
ถือเป็นปฐมบทในการตัดกำลังหล่อเลี้ยงพระพุทธศาสนาโดยตรง
เพราะถ้าไม่มีงบประมาณ
พระสงฆ์ก็ทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาไม่ได้ ในไม่ช้าพระพุทธศาสนาในประเทศไทยก็ต้องสูญพันธุ์
+ + + การที่รัฐบาลปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดกับวัดในพระพุทธศาสนา
โดยไม่เข้ามาแก้ไขอะไรเลย เป็นเสมือนสัญญาณว่า
ท่านอยากเห็นศาสนาพุทธในประเทศไทยอ่อนแอลง + + +
==================
มีแต่คนขี้ขลาดเท่านั้น
ที่เข้าใจว่าการใช้กำลัง
กับคนไม่มีทางสู้
คือ ความกล้าหาญ
ที่เข้าใจว่าการใช้กำลัง
กับคนไม่มีทางสู้
คือ ความกล้าหาญ
#คนขี้ขลาดชอบใช้กำลังกับคนไม่มีทางสู้
#คนกล้าหาญย่อมไม่รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า
#วัดพระธรรมกาย
#หลวงพ่อธัมมชโย
#ข้อคิด #พัฒนาตนเอง #ความสุข
#ชุลีพรช่วงรังษี #OhLifeStory
#คนกล้าหาญย่อมไม่รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า
#วัดพระธรรมกาย
#หลวงพ่อธัมมชโย
#ข้อคิด #พัฒนาตนเอง #ความสุข
#ชุลีพรช่วงรังษี #OhLifeStory
ขอให้โชคดีและมีความสุขนะคะ
ชุลีพร ช่วงรังษี
www.facebook.com/OhLifeStory
Line : @OhLifeStory ( http://line.me/ti/p/%40ohlifestory )
Instagram : Oh_Life_Story
ชุลีพร ช่วงรังษี
www.facebook.com/OhLifeStory
Line : @OhLifeStory ( http://line.me/ti/p/%40ohlifestory )
Instagram : Oh_Life_Story
หากต้องการติดตามประสบการณ์ของดิฉันเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายเพิ่มเติม
กรุณาเข้าไปอ่านที่
http://dhammakayafactsheet.blogspot.sg/2016/05/hot.html
http://dhammakayafactsheet.blogspot.sg/2016/05/hot.html
1 ความคิดเห็น:
Write ความคิดเห็นสงสารประเทศไทย
ReplyEmoticonEmoticon