ระวังวัดพระธรรมกายล้างสมอง

"แฉวัดพระธรรมกาย"

ก่อนเข้าวัด ได้รับการเตือนว่า

รักษาตัวเองให้ดีๆ

ระวังวัดพระธรรมกายล้างสมอง

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าผมเป็นคนต่างจังหวัด เขตอีสาน ช่วงปี 38,39 ผมเคยมาวัดพระธรรมกายตอนนั้นการก่อสร้างยังไม่ค่อยมีอะไรใหญ่โต

ห้องน้ำ ยังเป็นห้องน้ำชั่วคราวมีซานแลนด์กั้น
แยกฝั่งชาย แยกฝั่งหญิง

-มาวัดใหม่ๆ ก็งงไรหลายอย่างเช่นคำว่า"อนุโมทนาบุญร่วมกัน" เมื่อรับบุญเสร็จ

-ช่วงนั้นสงสัยว่าทำไมต้องกล่าวคำนี้ หรือคำว่ารับบุญ ผมไม่เคยได้ยินและไม่เข้าใจ คุ้นแต่คำว่า
"เข้าเวร" อยู่เวร แบบนี้

-ช่วงนั้นประทับใจรุ่นพี่ๆ ที่คอยดูแลเราในการรับบุญมีน้องๆ มาช่วยกันหลากหลายมหาวิทยาลัยร่วม หลายร้อยคน (เฉพาะในฝ่ายงานบุญที่ผมรับช่วงนั้นครับไม่รวมอาสาสมัครฝ่ายอื่นๆ)

-ตอนนั้นยังไม่เข้าใจเข้าใจอะไรครับแค่มาช่วยรับบุญในช่วงที่มีงานคนมาร่วมงานกันเยอะมากมาย

-พอช่วงที่วัดมีข่าวในคำกล่าวหาต่างๆ สื่อในประเทศของเราเสนอข่าวมากมาย ช่วงเวลานั้นบอกตามตรงครับ ผมเชื่อสื่อทุกประเด็นครับ

ที่เกี่ยวกับ หลวงพ่อธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย เพราะผมคิดว่าสื่อในบ้านเรา จะนำเสนอข่าวที่ดีตรงไปตรงมา มีความยุติธรรม

ยกตัวอย่างเช่นการสร้างองค์พระประจำตัว สื่อนำเสนอข่าวให้ร่วมบุญองค์ละจำนวนแพงมากๆ ยังคิดอยู่ว่าราคาสูงขนาดนั้นใครจะไปมีเงินทำบุญ และยังคิดว่าทำไมต้องจำกัดจำนวนเงินในการทำบุญ

ไม่เคยเจอคิดตอนนั้นว่ามีเงิน 100 บาทเราสามารถสร้างองค์พระได้ 100 องค์ หรือไปแลกที่จุดแลกเหรียญทำองค์ละสลึงได้เป็นพันๆองค์

คือไปหยอดทำบุญตามพานหรือตู้ใส่ต่างๆ
ที่มีองค์พระหลายๆปรางค์

-ตอนนั้นความคิดของผมเป็นมิจฉาทิฐิ เชื่อตามที่สื่อได้นำเสนอข่าว

(แต่สื่อไม่ได้บอกว่าใช้วัสดุอะไรในการสร้างองค์พระ มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรอายุการใช้งานนานขนาดไหน)

ช่วงนั้นฟังสื่อโทรทัศน์อย่างเดียว แต่ไม่มีโอกาสได้ฟัง ข้อมูลจากวัดพระธรรมกายเลย

โทรศัพท์ยุคนั้นก็ราคาแพงทำให้การสื่อสารยุคค่อนข้างลำบาก

-ช่วงปี 43 ผมได้รับราชการทหารเกณฑ์อยู่ 2 ปีจึงปลดประจำการ

-บอกตามตรงครับ อายุ 20 กว่าปีแต่ไม่มีความรู้เรื่องทาน ศีล นั่งสมาธิและเรื่องกฏแห่งกรรมเลยเป็นเพียงแค่คนพุทธในทะเบียนบ้าน

และไม่เคยคิดที่จะมาบวช ที่วัดพระธรรมกายเลยแม้แต่นิดเดียว

-คิดอยากจะบวชที่บ้าน เพื่อให้โยมพ่อโยมแม่ญาติพี่น้องได้ร่วมอนุโมทนาบุญในการบวชที่บ้าน

-แต่เคยคิดอยู่ในใจ และหาคำตอบไม่ได้ว่าการบวชที่จะให้พ่อแม่ก็ใช้ผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ต้องทำอย่างไร

เพราะเห็นเพื่อนบ้านหลายหลายคนที่บวช มีเครื่องดื่มของมึนเมามีวงดนตรีต่างๆ หรือแม้แต่ผู้บวชเองยังไม่สามารถกล่าวคำขอบวชต่อหน้าพระอุปัฌชาย์ด้วยตัวเองเลย

-แล้วพ่อแม่จะเกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์ได้อย่างไร?

-ในเมื่อตัวเองยังเอาตัวไม่รอดในการกล่าวคำขอบวช?

-หลังจากปลดทหารเรียบร้อยแล้ว ด้วยอะไรก็ไม่รู้ทำให้คิดอยากจะบวช และได้ขออนุญาตโยมพ่อโยมแม่มาบวชที่วัดพระธรรมกาย

-แต่ด้วยความเป็นห่วงของญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้ข้อคิดไว้ว่า รักษาตัวเองให้ดีๆ

ระวังวัดพระธรรมกายล้างสมอง ตัวผมเองก็ได้กล่าวกันว่าวัดพระธรรมกาย ไม่สามารถล้างสมองผมได้อย่างแน่นอน

-พอเข้ามาอยู่ในโครงการอบรมทางพระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงสอนทุกอย่าง

เรื่องการเดิน
การยืน
การคบฉันภัตตาหาร
การกราบไหว้

การปฏิสันถารกับภาพภิกษุต้องทำอย่างไร
แม้แต่การล้างห้องน้ำ

-กว่าจะถึงเวลาบรรพชาอุปสมบทต้องรักษาศีล 8 และฝึกอิริยาบถต่างๆตลอด 1 เดือน

-นอนในกลด ไม่มีพัดลมไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆเหมือนที่บ้าน ไม่มีพัดลม

-ต้องอดทนกับอากาศร้อน แดดร้อนๆ และฝนที่ตกลงมาในช่วงเดือนเมษา ความสะดวกสบายไม่มีเลย

-ไม่มี น้ำเย็นๆให้ได้ดื่มชื่นใจ น้ำอัดลมวันหวานๆหมดสิทธิ์ได้ทานเลยครับ

-แต่ได้รับความรู้มากมาย เช่น
-ทำไมต้องรู้เรื่องพระคุณพ่อแม่

-เรื่องทำไมต้องทำทาน?
-เรื่องทำไมต้องรักษาศีล?
-ทำไมต้องนั่งสมาธิ?

-ทำไมต้องศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรม?
พอถึงเวลาอุปสมบทต้องกล่าวคำขออุปสมบทเอง ต่อหน้าพระอุปัฌชาย์

หากใครกล่าวคำไม่ได้ก็จะไม่ได้บวช (เข้าใจเลยครับว่าการบวชไม่ใช่เรื่องๆง่ายๆที่ใครจะบวชได้ มีผ้าไตรจีวร มีบาตร แต่ถ้ากล่าวคำบวชไม่ได้ก็หมดสิทธิ์ครับ )

-พอบวชแล้ว ต้องฝึกการ พับผ้า ห่มผ้า ให้ดูสวยงาม

-บวชในโครงการประมาณ 2 เดือนครึ่งครับ ได้รู้ในสิ่งที่เคยสงสัย รุ่นผมที่บวชด้วยกัน400 รูป

ขอให้ช่วยคิดตามนะครับ...

ผมบวชพระที่วัดพระธรรมกายคุ้มค่ามากครับ เพราะ...

1. ตลอดโครงการผมไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลยสักบาทเดียว

2. ผมมีความรู้เรื่องพระคุณของโยมพ่อโยมแม่ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ชีวิตผม ครอบครัวผมก็มีความสุขแล้วครับ

- สุขของพ่อแม่ที่ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะไปทำตัวเหลวไหล ติดยา ขายยา

- สุขของลูกที่ได้ตอบแทนท่าน รักษาวงศ์ตระกูลให้ดีงาม

3. ผมป่วยเป็นโรคไมเกรน ปวดหัวทรมานมากที่สุด เคยนอนรพ.ฉีดยา7 เข็มอาการจึงหาย เข้ารพ.บ่อยมาก มีอาการชักมือจีบควบคุมตัวเองไม่ได้ แพทย์ให้ผมไปพบจิตแพทย์ คุณคิดว่าอาการหนักไหม..?

-มาเข้าวัดพระธรรมกาย ได้นั่งสมาธิ อาการหายเป็นอัศจรรย์ (วัดนี้ล้างสมองผมหายป่วย)

-บวชมาถึงทุกวันนี้อาศัยบารมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย บารมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโว ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้เมตตาอบรมสั่งสอนศรัทธาญาติโยม

ให้เขามีความรู้ทางศีลธรรมในการดำเนินชีวิต มีความศรัทธาหลวงพ่อทั้งสอง จึงทำให้ผมมีภัตตาหารการขบฉันมีปัจจัยสี่ในการใช้สอย ปลดเครื่องกังวล

-มีคนเคยบอกว่าใครอยู่วัดพระธรรมกาย
เข้าวัดพระธรรมกายต้องเป็นคนรวยคนมีเงินเยอะๆ

-ผมขอยืนยันล้าน% บ้านผมไม่มีเงินเยอะมากมายแต่บวชอยู่ได้ 10 กว่าพรรษาแล้วครับ

-บวชอยู่ที่วัดพระธรรมกาย10 กว่าพรรษาไม่เคยมีเงินเก็บในบัญชีธนาคารใดๆเลย มีปัจจัยก็ถวายทำบุญหมด

-ด้วยความจริงที่ผมได้เล่าบรรยายนี้ ขอกรรมต่างๆที่ผมเคยผิดพลาดกระทำมาทั้งกายวาจาขอให้ไม่มีโอกาสส่งผล

ขอให้เป็นอโหสิกรรม และขอบุญกุศลที่กับผม ได้กล่าวความจริงมาทั้งหมดนี้ ส่งผลขอให้ข้าพเจ้าผลจากคนภัยคนพาลให้เป็นผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ

เข้าใจกฏแห่งกรรมไม่ก้าวล่วงผู้มีศีลธรรม เป็นผู้ที่มีความเห็นถูกไม่หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของคนภัยคนพาล สามารถตักเตือนสอนตัวเองได้ตลอดกาลนานเทอญ.

Cr.ปญฺญาธิโก
ถ้าดีช่วยแชร์ต่อครับ